กลับไปรายการกระดานข่าว ตอบกลับ โพสใหม่

อุปกรณ์ป้องกันการตก

อุปกรณ์ป้องกันการตก

อุปกรณ์ป้องกันการตกเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ปฎิบัติงานสามารถทำงานในสถานที่เสี่ยงอันตรายในการพลัดตกลงมา โดยเฉพาะใน การปฏิบัติงานบนที่สูงเกิน 4 เมตร

การป้องกันการตกมีอยู่ 3 ประเภท
1.การป้องกันในสถานที่ทำงาน

- มีการจัดระบบงานเพื่อที่จำกัดการทำงานบนที่สูง
- ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการตกเพื่อลดความเสี่ยง เช่น นั่งร้าน,ตาข่าย
- ใช้อุปกรณ์ป้องกันการตกส่วนบุคคลเมื่อไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการตกได้
2. การป้องกันที่ตัวผู้ปฏิบัติงาน
- การฝึกอบรมให้กับผู้ที่ต้องขึ้นไปปฏิบัติงานบนที่สูง
3. การป้องกันโดยใช้อุปกรณ์ป้องกันการตก
- โดยการใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ในกรณีที่ไม่มีมาตรฐานให้ขอใบรับรองผลการทดสอบจากโรงงานผู้ผลิต
- ไม่สร้างระบบการป้องกันการตกด้วยตนเอง


องค์ประกอบหลักของระบบการป้องกันการตก
3 Elements of Fall Protection System:




1. จุดยึด Anchor Point (tie-off point):

จุดยึดคือจุดที่เอาไว้สำหรับยึดตัวกับฐานหรือโครงสร้างต่างๆ โดยตามมาตรฐานANSI ของอเมริกา อุปกรณ์ต้องสามารถรับแรงได้อย่างน้อย 22 KN (5000lb)การใช้งานควรอยู่ในตำแหน่งเหนือหัวขึ้นไปและอยู่ในแนวเดียวกับผู้ใช้เพื่อป้องกันการลดระยะการตกและลดการเหวี่ยงตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากการกระแทกกับโครงสร้าง

2. อุปกรณ์เชื่อมต่อ Connecting Device (lanyard & Connector):

อุปกรณ์เชื่อมต่อ (Connector)จะมีอยู่อย่างน้อย 2 จุดคือจุดที่เชื่อมต่อกับจุดยึด (Anchor PointConnector) และจุดที่ยึดกับตัว Harness (Harness Connector)จะต้องทนต่อการกัดกร่อนผิวจะต้องเรียบ ไม่มีรอยเชื่อมและทำจากเหล็กที่ผ่านการหล่อขึ้นรูปหรือ ปั๊มขึ้นรูป (ตัวเชื่อมต่อ 1จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างจุดยึดกับอุปกรณ์ป้องกันการตก จะต้องไม่มีรอยร้าวรอยแตก หรือการเปลี่ยนรูปถาวรรับแรงอย่างน้อย 16KN




เชือก (Landyard) การใช้งานจะใช้สำหรับรักษาตำแหน่งการทำงานของผู้ใช้และป้องกันการตก

- เชือกในลักษณะรักษาตำแหน่ง (Restrain Lanyard) ความยาวเชือกควรมีระยะสั้นที่สุดเพื่อไม่ให้ผู้ใช้พลัดตกไปเกิน 2 ฟุตซึ่งเชือกสามารถทำจากวัสดุได้หลายชนิดทั้ง ลวดสลิง, โซ่, เชือกไนล่อน(โพลีเอไมด์)




- เชือกสำหรับป้องกันการตก (Fall Absorbing Lanyard) จะทำจากเหล็กไนล่อน(โพลีเอไมด์)หรือเส้นใย Dacron โดยอาจจะมีเสริมอุปกรณ์ดูดซับแรง(Shock-Absorb) เพื่อลดแรงกระแทกเวลาตกซึ่งให้จำไว้ว่าเชือกจะต้องช่วยไม่ทำให้เกิดแรงสูงสุดที่เข็มขัดรัดลำตัว(Full-Body Harness)เกิน 1800 ปอนด์เวลาตกและความยาวเชือกสูงสุดจะต้องไม่ทำให้ผู้ใช้งานตกลงมาเกิน 6 ฟุต

      



เชือกช่วยชีวิต (Lifelines)เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานให้กับระบบการป้องกันการตกโดยจะใช้ร่วมกับอุปกรณ์ยึดจับเชือก(Rope Grap)เชือกช่วยชีวิตทำให้ผู้ใช้งานเคลื่อนไหวได้ไปตามความยาวของเชือกที่ขึงอยู่แทนที่จะต้องปลดและหาจุดยึดใหม่ตลอดเวลา โดยอุปกรณ์ยึดจับเชือก(Rope Grap)จะทำหน้าที่ยัดจับเชือกโดยอัตโนมัติที่เกิดการตกขึ้นนอกจากนี้ยังมีเชือกช่วยชีวิตแบบที่หดกลับอัตโนมัติ(Retractablelifelines) ซึ่งเชือกแบบนี้ไม่ต้องใช้ Rope Grapเนื่องจากมันจะหดกลับเองดัตโนมัติเมื่อมีการตกขึ้น


              



3. เข็มขัดแบบรัดทั้งตัว Body wear (full body harness)
ใส่โดยผู้ใช้งาน โดยต้องสวมใส่ทั้งตัวไม่ใช่จุดใดจุดหนึ่งเป็นอุปกรณ์ดึงผู้ปฏิบัติงานถ้ามีการตก โดยHarnessจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะการทำงานและจะต้องมีจุดเชื่อมต่ออย่างน้อย1 จุดซึ่งปกติจะอยู่ทางด้านหลังสายรัดกันตกต้องทำจากวัสดุอ่อนนุ่มแต่ทนทาน ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เช่นโพลีเอไมด์ หรือ โพลีเอสเตอร์ ป้องกันการบาดเจ็บโดยการตกจากที่สูง



     



***เมื่อเกิดการตกขึ้นให้ทำการเปลี่ยนโดยทันทีและไม่แนะนำกลับมาใช้อีกครั้งจนกว่าจะได้ทำการตรวจสอบจากผู้ชำนาญหรือผู้ผลิตในความเสียหายและความเหมาะสมที่จะใช้งานต่อหรือไม่



สามารถดูตัวอย่างอุปกรณ์กันตกได้ที่


[url=http://www.siamsafetyplus.com]http://www.siamsafetyplus.com[/url]



แหล่งที่มา


  • 29 CFR 1926.104, Safety Belts, Lifelines and Lanyards


  • ANSI A10.14-1991, Standard for Construction and DemolitionOperations-Requirements for Safety Belts, Harnesses, Lanyards andLifelines for Construction and Demolition Use.
  • ANSI Z359.1-1992, Standard for Personal Arrest Systems, Subsystems and Components.
บริษัท สยามเซฟตี้พลัส จำกัด อุปกรณ์เซฟตี้ |อุปกรณ์ความปลอดภัย|Safety Shoes  
กลับไปรายการกระดานข่าว

เพื่อนบ้าน :อุปกรณ์ความปลอดภัย,safety shoes,safety footwear,กลูต้า