กลับไปรายการกระดานข่าว ตอบกลับ โพสใหม่
อุปกรณ์ถ่ายเทอากาศในที่อับอากาศ
( Confined Space Ventilator)




ระบบการถ่ายเทอากาศจะจำเป็นต้องถูกใช้ในสถานที่ทำงานต่อเมื่อสถานที่ดังกล่าวมีสภาพดังต่อไปนี้


-
มีอ็อกซิเจนไม่เพียงพอ น้อยกว่า 19.5%ของมวลอากาศ หรืออ็อกซิเจนมากเกินไปจนอาจเป็นพิษ เกิน 23.5% ของมวลอากาศ

-
มีไอหรือละอองของสารไวไฟ

-
มีไอ,ละออง,ฝุ่น หรือแก็สพิษ

-
มีสภาพอากาศร้อน

-
มีการทำงานที่อาจทำให้เกิดฝุ่น ละออง หรือแก็ส ที่นำไปสู่การทำให้อ็อกซิเจนขาดแคลนหรือมากเกินไป

-
การทำงานที่เกี่ยวกับความร้อนเช่น งานเจียร งานตัด งานเชื่อม



การใช้พัดลมดูดอากาศเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการนำอากาศบริสุทธ์เข้าไปในสถานที่ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ขจัดอากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนออกจากสถานที่ทำงานและเพื่อรักษาระดับอ็อกซิเจนในอากาศการระบายอากาศที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิผลของพนักงาน
พัดลมดูดอากาศทำงานโดยการดูดอากาศจากบริเวณหนึ่งอัดอากาศและปล่อยเข้าไปในสถานที่อับอากาศภายใต้ความดันและความเร็วลม(ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที)ที่คงที่กระบวนการนี้จะทำให้อากาศบริสุทธิ์ไหลเข้าไปในพื้นที่และขับไล่อากาศที่มีสิ่งปนเปื้อนออกมา เมื่อมีการตัดสินใจจะใช้พัดลมดูดอากาศในสถานทำงานการเลือกพัดลมที่เหมาะกับการใช้งานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึง
เพราะพัดลมดูดอากาศไม่ได้มีแค่เพียงขนาดเดียวผู้ใช้ไม่สามารถเลือกได้โดยเพียงแค่เห็นการเลือกจำเป็นต้องมีความรู้พอสมควร เช่นว่า จะเลือกแบบที่รุ่นแบบhazardous หรือ non-hazadous, ใช้แก๊สหรือใช้ไฟฟ้า, ความเร็วลมเท่าไดสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนเลือกพัดลม

การเลือกประเภทพัดลม

Hazardous or Non-Hazardous Type
การเลือกพัดลม ขั้นแรกให้เริ่มดูที่สถานที่ใช้งาน โดยจะแบ่งเป็น
2ประเภท คือสถานที่อันตรายและ ไม่อันตราย ๖(hazardous or non-hazardous)พื้นที่ใดที่มีโอกาสจะติดไฟหรือระเบิดเนื่องจากมีวัสดุที่ติดไฟตามที่สถาบันNational Electric Code® (NEC) ของสหรัฐอเมริการะบุไว้ เช่นโรงงานปิโตรเคมี, ปั๊มน้ำมัน, โรงงานอุดตสาหกรรมบางประเภท เป็นต้น


ถ้าNEC กำหนดพื้นที่ไดไว้ว่าเป็นพื้นที่อันตราย อุปกรณ์เฉพาะจะต้องถูกใช้พัดลมดูดอากาศสำหรับสถานที่อันตราย (Hazardous Type)จะต้องออกแบบให้ทำจากโครงสร้างกันการเกิดประกายไฟตัวพัดลมจะต้องควบคุมการเกิดประกายไฟพัดลมประเภทนี้จะประกอบด้วยมอเตอร์กันระเบิด(explosion-proof motors)แต่ถึงแม้จะเรียกว่าพัดลมกันระเบิดแต่ไม่ได้หมายความว่ามอเตอร์ชนิดนี้จะไม่ระเบิดเพียงแต่ตัวมอเตอร์ทำจากโครงสร้างที่มีความแข็งแรงและเหนียวพอที่จะทำให้ตัวมอเตอร์ไม่แตกกระจายออกเมื่อเกิดการะเบิดขึ้นภายใน

สำหรับพัดลมแบบไม่ใช้ในสถานที่อันตรายคือพัดลมที่ใช้ในสถานที่ที่ไม่ถูกระบุไว้ว่าเป็นสถานที่อันตรายโดยโครงสร้างพัดลมชนิดนี้จะออกแบบโดยไม่เป็นแบบที่กันประกายไฟการเลือกพัดลมทั้งสองประเภทจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่และตำแหน่งการติดตั้ง





ระบบการดูดอากาศ
พัดลมสามารถแบ่งได้ตามระบบการดูดอากาศได้ดังนี้
พัดลมแบบดูดแนวตรง หรือ axial fan

มีอยู่ 3 ชนิดคือ Propeller Fan, Tubeaxial fan และ Vanaxial Fan

Propeller Fan หรือพัดลมระบายอากาศ ลักษณะของพัดลมชนิดนี้จะเหมือนพัดลมทั่วไป อาจประกอบด้วยใบพัด 1 หรือ 2 ใบพัด โดยพัดลมแบบนีจะสามารถทำให้อากาศเคลื่นที่ได้จำนวนมาก แต่แรงอัดอากาศจะน้อย




Tubeaxial Fan ลักษณะของพัดลมชนิดนี้จะมีขนาดท่อพัดลมค่อนข้างยาว แต่ขนาดใบพัดจะสั้นกว่าแบบ Propeller Fan พัดลมแบบนี้จะมีแรงอัดอากาศสูง สามารถควบคุมทิศทางลมได้ง่าย แต่มีข้อเสียคือ ขนาดใหญ่และหนักมาก เคลื่อนย้ายได้ลำบาก




Vanaxial Fan เป็นพัดลมที่พัฒนามาจาก TubeaxialFan โดยจะมีช่วงท่อพัดลมที่สั้นกว่าแต่ใช้ใบพัดแบบพิเศษช่วยทำให้แรงดันอากาศที่สูงกว่าทำให้พัดลมชนิดนี้เหมาะสมอย่างมากในการใช้ในสถานที่อับอากาศ






การคำนวณขนาดพัดลม
ขนาดพื้นที่และตำแหน่งการติดตั้งเป็นส่วนที่สำคัญในการเลือกพัดลม โดยในสถานที่อับอากาศแต่ละแห่งจะมีความต้องการความเร็วลมที่ต่างกัน
การคำนวณแรงลมสามารถทำได้ตามหลักการดังนี้

-       ขนาดพื้นที่เท่าไหร่(เป็นลูกบาศก์ฟุต)
-       จำนวนครั้งในการเปลี่ยนอากาศต่อชั่วโมง
air changes per hour (ACH)
--- ในการหา ACH พนักงานจะต้องใช้วิจารณญาณของตนเองโดยคำนึงถึงปริมาตรและความรุนแรงของสิ่งปนเปื้อนหรือกำหนดโดยกฏหมายในพื้นที่นั้นๆหรือระเบียบของโรงงาน

เมื่อรู้ตัวเลขทั้งสองนี้แล้ว ให้เอาตัวเลขทั้งสองมาคูณกันเพื่อค่าแรงลม(CFM)ที่ต้องการ
ยกตัวอย่าง เช่น
กฎระเบียบในพื้นที่ กำหนดว่าการเปลี่ยนอากาศต้องมีอย่างน้อย 6 ครั้งต่อชั่วโมง (6 ACH) ถ้าพื้นที่อับอากาศมีปริมาตร 10,000 ลูกบาศก์ฟุต ดังนั้น ต้องการลมขนาด 60,000 ลูกบาศก์ฟุต
แล้วหารด้วยจำนวนนาทีใน 1 ชั่วโมง หรือเท่ากับ 60 ดังนั้นแรงลมขั้นต่ำที่ต้องการจะเท่ากับ 1,000 CFM (ลูกบาศก์ฟุตต่อนาที)

ในขณะที่ขนาดพื้นที่มีผลต่อขนาดของพัดลมบริเวณที่ติดตั้งพัดลมจะมีผลต่อทั้งขนาดพัดลมและท่อลมซึ่งจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบริเวณซึ่งความยาวของท่อจะส่งผลต่อขนาดพัดลมได้เนื่องจากว่ายิ่งความยาวท่อยาวก็ความแรงดันของลมก็จะยิ่งลดลงเนื่องจากจะมีการสูญเสียแรงเนื่องจากแรงเสียดทานของพื้นผิวภายในท่อดังนั้นหากมีการใช้ท่อที่ยาวมากก็ควรจะเลือกขนาดพัดลมที่มีแรงดันอากาศมากกว่าปกติ








พัดลมแบบดูดแนวแกนหมุน หรือ Centrifugal fan

พัดลมชนิดนี้จะดูดอากาศโดยใช้ใบพัดแบบวงล้อโดยทั่วไปพัดลมประเภทนี้จะทำให้อากาศเคลื่อนตัวช้ากว่าแบบแนวตรงแต่มีความดันอากาศที่สูงกว่าซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการใช้คู่กับท่ออากาศ





อุปกรณ์เร่งความดันอากาศ (Flow Amplifier)
อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่เหนี่ยวนำอากาศให้เคลื่อนไหวไปในแนวของอุปกรณ์เพื่อเพิ่มแรงลมโดยอุปกรณ์นี้จะทำงานโดยเพียงแค่ใช้ท่ออากาศที่มาจากเครื่องอัดอากาศไหลสู่อุปกรณ์ในส่วนฐานของอุปกรณ์อุปกรณ์จะทำหน้าที่ควบคุมลมเคลื่อนที่ออกมาผ่านช่องลมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความแรงอากาศอุปกรณ์นี้เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่อันตรายหรือเสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟเนื่องจากไม่มีส่วนที่เคลื่อนไหวในอุปกรณ์โดยการใช้งานควรมีการยึดกับพื้นและมีเชื่อมต่อที่มั่นคงเพื่อป้องกันการเกิดการสะสมของประจุไฟฟ้าสถิตย์








เครื่องอัดอากาศ (Air Compressor)

การใช้เครื่องอัดอากาศนี้โดยทั่วไปจะใช้ในกรณีเมื่อสถานที่ทำงานมีข้อจำกัดในการเข้าถึง หรือมีทางเข้าที่เล็ก ท่ออากาศปกติเข้าไม่ได้จำเป็นต้องใช้ท่อที่มีขนาดเล็กแต่การใช้เครื่องอัดอากศนี้มีข้อจำกัดคือห้ามใช้ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดไฟ เนื่องจากเป็นแหล่งที่อาจทำให้เกิดประกายไฟได้


แหล่งพลังงานของพัดลม
ปัจจัยอีกอย่างที่สำคัญก็คือชนิดแหล่งพลังงานของพัดลม ซึ่งปกติพัดลมแต่ละชนิดจะใช้แหล่งพลังงานได้เพียงอย่างหนึ่ง ซึ่งได้แก่
Electrical



--- ไฟฟ้า กระแสสลับ (AC) สำหรับใช้ทั่วไปในการทำงาน

--- ไฟฟ้า กระแสตรง (DC) มักใช้ในกับแบตเตอรี่รถยนต์ ในการทำงานนอกสถานที่
Pneumetic


--- ใช้แรงดันลมจากเครื่องอัดอากาศ มักใช้ในสถานที่ที่เสี่ยงอันตราย ไม่เหมาะกับการใช้แก๊สหรือไฟฟ้า

Engine


--- เครื่องยนต์ใช้น้ำมัน มักใช้ในการทำงานนอกสถานที่ แต่ห้ามใช้ใน

สถานที่ที่เสี่ยงกับการติดไฟ

ซึ่งที่เป็นที่นิยมสำหรับสถานที่อับอากาศจะเป็นแบบใช้ไฟฟ้าและแบบใช้แรงดันลมซึ่งการเลือกใช้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพที่ทำงานว่าเหมาะสมกับแหล่งพลังงานอย่างใดการไม่พิจารณา อาจทำให้อุปกรณ์ที่ซื้อมาใช้งานไม่ได้ เช่นซื้อพัดลมแบบใช้ไฟฟ้ามาแล้วไม่มีเต้าเสียบ หรือซื้อแบบใช้แก๊สมาแต่พบว่าสถานที่นั้นไม่อนุญาตให้ใช้พัดลมที่มีควัน เป็นต้น


ข้อมูลจาก thai-safetywiki
บริษัท สยามเซฟตี้พลัส จำกัด อุปกรณ์เซฟตี้ |อุปกรณ์ความปลอดภัย|Safety Shoes  
กลับไปรายการกระดานข่าว

เพื่อนบ้าน :อุปกรณ์ความปลอดภัย,safety shoes,safety footwear,กลูต้า